189 จำนวนผู้เข้าชม |
08/12/2023
โดยทั่วไป สุขภาพของฟัน เหงือก และช่องปากขึ้นกับการปฏิบัติตนเป็นอย่างมาก การดูแลช่องปากอย่างไม่เหมาะสมทำให้เกิดปัญหาหลายประการ ได้แก่ ปวดฟัน ฟันผุ ปัญหาการขบเคี้ยว กลิ่นปาก ฟันเก และอาการเสียวฟัน วัตถุประสงค์โดยพื้นฐานของการดูแลสุขภาพในช่องปากคือเพื่อขจัดhttps://www.oralb.com.sg/th-th/oral-care-topics/the-difference-between-plaque-and-tartar-thที่เป็นอันตรายออกจากฟันและเหงือก เพราะการสะสมคราบจุลินทรีย์สามารถทำให้ฟันผุและเหงือกผิดปกติ
ฟันผุเป็นสภาวะที่ฟันมีการสลายตัวทำให้เกิดช่องว่างขึ้น โดยเริ่มต้นจากช่องเปิดในเคลือบฟัน (Enamel) ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาก็จะทำให้ปวดฟันและเกิดปัญหาที่เหงือก เช่น เหงือกบวมและอักเสบ และนำไปสู่การสูญเสียฟันซี่นั้นในที่สุด
โรคปริทันต์ ได้แก่ เหงือกอักเสบ (Gingivitis) และฝีที่เหงือก (Gum Boil) ) เป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียฟันในผู้ใหญ่โดยเฉพาะในผู้ที่ขาดการดูแลสุขภาพในช่องปากที่ดี ผู้ที่สูบบุรี่ ผู้ป่วยเบาหวาน หรือเอดส์ เหงือกอักเสบเกิดจากแรงดันของคราบหินปูน (Tartar) ซึ่งอาจทำให้เหงือกเลือดออกได้ ถ้าไม่ใด้รับการรักษา การติดเชื้อจะลามเข้าไปถึงกระดูกที่ค้ำจุนฟัน ทำให้เกิดหนองขึ้น จากนั้นกระดูกจะเริ่มต้นผุกร่อน และเกิดการสูญเสียฟันในที่สุด สภาวะนี้เรียกว่า ปริทันต์อักเสบ (Periodontitis) หรือรำมะนาด (pyorrhea)
กลิ่นปาก (Halitosis) เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อย แม้ว่าปัญหานี้อาจจะมาจากการดูแลช่องปากที่ไม่ถูกสุขอนามัยแต่มันก็อาจจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงปัญหาที่ร้ายแรง ได้แก่ การเกิดโรคเหงือก หรือความผิดปกติในลำไส้ กลุ่มของแบคทีเรียที่ไม่ใช้ออกซิเจนในการดำรงชีวิต(Anaerobic Bacteria) ที่อาศัยอยู่ที่ลิ้นเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก แบคทีเรียเหล่านี้เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น มีเศษอาหารในช่องปาก ก็จะปล่อยสารประกอบกำมะถันซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นปาก
คำแนะนำผู้ป่วย
· แปรงฟันวันละสองครั้ง นาน 2 นาที ให้มุมขนแปรงเข้าถึงบริเวณที่มีฟันและเหงือก
· ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ เป็นส่วนประกอบ
· เมื่อแปรงฟัน เอียงหน้าแปรงทำมุม 45 องศากับฟัน เพื่อที่ฟันและเหงือกจะได้รับการทำความสะอาดอย่างเต็มที่
· การทำความสะอาดลิ้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ลดกลิ่นปากและทำให้สุขอนามัยในช่องปากดีขึ้น
· ใช้แปรงขนนุ่มและหลีกเลี่ยงการแปรงฟันแรงจนเกินไปการแปรงฟันแรงเกินไปสามารถทำให้เคลือบฟันสึกกร่อนและเหงือกร่น เปลี่ยนแปรงสีฟันทุกสามเดือน หรือเมื่อขนแปรงทู่ หรือเสื่อมสภาพ ทั้งนี้เพื่อการทำความสะอาดผิวฟันที่มีประสิทธิภาพ
· การใช้ไหมขัดฟัน (Flossing) จะช่วยป้องกันการเกิดคราบจุลินทรีย์และลดการติดค้างของเศษอาหาร จึงเป็นการลดโอกาสที่จะปวดฟัน ใช้ไหมขัดฟันทุกวันเพื่อขจัดคราบจุลินทรีย์ที่อยู่ระหว่างซี่ฟัน ใช้ไหมขัดฟันยาวประมาณ 46เซนติเมตรและพันปลายไหมขัดฟันรอบนิ้วกลาง อย่า "กด"ไหมขัดฟันลงไปที่เหงือก โค้งไหมขัดฟันไปตามส่วนโค้งของฟันแต่ละซี่ และใช้การเคลื่อนไหวขึ้นลงเพื่อขจัดคราบจุลินทรีย์ ระลึกอยู่เสมอว่าขัดฟันเพื่อทำความสะอาดฟันแต่ละซี่อย่างทั่วถึง
· บ้วนปากด้วยน้ำหลังจากอาหารแต่ละมื้อ การใช้น้ำยาบ้วนปาก (Mouthwash) สามารถลดแบคทีเรียในช่องปากได้ กลั้วคอและปากด้วยน้ำยาบ้วนปากเป็นเวลาสั้นๆ ทุกวัน
· เพิ่มการดื่มน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ปากแห้ง
· หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อนหรือเย็นเกินไป เพื่อป้องกันอาการเสียวฟัน
· เคี้ยวหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาลเพื่อกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย เนื่องจากน้ำลายสามารถป้องกันฟันผุได้
· การสูบบุหรี่จะทำให้ปัญหาในช่องปากเลวร้ายลง จึงควรเลิกสูบบุหรี่
· สำหรับผู้ที่ใส่ฟันปลอม
o ไม่ควรสวมฟันปลอมค้างตลอดคืน และควรถอดฟันปลอมล้างด้วยผงล้างฟันปลอมและแปรง
o ควรนวดเหงือกด้วยนิ้วชี้เป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและหากมีบาดแผลบริเวณที่ใส่ฟันปลอมควรได้รับการรักษาให้หาย
· สำหรับผู้ที่ใส่อุปกรณ์จัดฟัน
o ผู้ที่ใส่เหล็กตัดฟันควรจะหาแปรงสีฟันชนิดพิเศษมาใช้
o ควรบ้วนปากให้สะอาดหลังอาหารทุกมื้อ และขจัดเศษอาหารที่ติดค้างตามซอกฟัน
o ควรนวดเหงือกเป็นประจำเพื่อป้องกันการอักเสบ
การส่งต่อแพทย์
· หากมีกลิ่นปากเรื้อรัง แม้จะดูแลสุขอนามัยในช่องปากเบื้องต้นอย่างเหมาะสมแล้ว
ทางเลือกในการรักษา
การดูแลสุขภาพช่องปาก
· ผลิตภัณฑ์ (เช่น ยาสีฟัน หรือยาบ้วนปาก) ที่มีฟลูออไรด์ เช่น sodium monofluorophosphate ใช้ป้องกันฟันผุ ฟลูออไรด์จะถูกดูดซึมเข้าไปในฟัน และทำให้ฟันมีความทนทานต่อกรดมากขึ้น
· น้ำยาบ้วนปากที่มี cetylpyridinium, chlorhexidine, allantoin, hyaluronic acid และ collagen อาจจะนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพช่องปาก
· Cetylpyridinium และ chlorhexidine เป็นสารต้านจุลชีพที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก
· Allantoin และ hyaluronic acid ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของเนื้อเยื่อเหงือก และช่วยให้สุขภาพช่องปากดีขึ้นก่อน และหลังทันตกรรมหัตถการ เช่น การถอนฟัน การผ่าตัด ฝังรากเทียม
ยาสำหรับแผลและการอักเสบในช่องปาก
· น้ำยาฆ่าเชื้อ (antiseptics)ยารักษาโรคติดเชื้อ ที่มียาเตรียม เช่น amylmetacresol, benzoxonium chloride, benzalkonium chloride, biclotymol, cetalkonium chloride, cetylpyridinium chloride, chlorhexidine, dequalinium chloride, dichlorobenzyl alcohol, hexetidine และ povidone-iodine ช่วยทำความสะอาดช่องปากและกำจัดแบคทีเรียในปากอาจเป็นอันตรายต่อฟันและเหงือก
· ถ้าหากใช้เป็นประจำ สีของ Chlorhexidine อาจจะติดที่ฟัน
· นอกจากนี้ น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น hexetidine และ povidone-iodine ยังมีประโยชน์ในการป้องกันการเจ็บคอเนื่องจากสารเหล่านี้ทำลายแบคทีเรียที่ติดเชื้อบริเวณคอ
· น้ำยาฆ่าเชื้อออาจทำให้เกิดระคายเคืองที่ลิ้นและริมฝีปาก
· ยาเตรียมบางชนิดอาจมี enoxolone สำหรับรักษาการอักเสบที่ปากและคอไม่ใช่สาเหตุจากการติดเชื้อ
· ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ lactoperoxidase, glucose oxidase และ lysozyme หรือโปรตีน lactoferrin อาจช่วยบรรเทาอาการปากแห้งและสร้างสมดุลของเชื้อแบคทีเรียประจำถิ่นในช่องปากและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื่อที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในช่องปาก
· ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารสกัด deproteinized calf blood และ polidocanol อาจใช้ทาเพื่อบรรเทาอาการปวดและอักเสบของแผลที่เนื้อเยื่อในช่องปาก เหงือก ริมฝีปาก ภายหลังการอุดฟันหรือถอนฟัน
© 2024 Company, Inc