ฉีดวัคซีนฟรี
MED4U

อาหารปลอดกลูเตน ความจำเป็นสำหรับผู้แพ้กลูเตน

82 จำนวนผู้เข้าชม |

11/07/2025


อาหารปลอดกลูเตน ความจำเป็นสำหรับผู้แพ้กลูเตน

อาหารปลอดกลูเตน ความจำเป็นสำหรับผู้แพ้กลูเตน

เราอาจจะได้ยินคำว่า "Gluten-free" หรือว่าปลอดกลูเตน ผ่านหูผ่านตามาบ้างตามสื่อต่างประเทศ ซึ่งคำนี้มักจะหมายถึงใน อาหารที่ปลอดกลูเตน บริโภคโดยผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจากโรค Celiac (โรคเซลีแอค) และจากอาการแพ้กลูเตน ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับอาหารปลอดกลูเต็น เหตุผลการเลือกทานอาหารประเภทนี้ รวมถึงคำแนะนำในการเลือกอาหารที่เหมาะสม

Gluten คืออะไร?

กลูเตน (Gluten) คือโปรตีนที่พบในธัญพืชบางชนิด เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวไรย์ เมื่อกลูเตนผสมกับน้ำจะช่วยให้แป้งมีความยืดหยุ่นและสามารถยึดเกาะกันได้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำขนมปัง พาสต้า และผลิตภัณฑ์เบเกอรีต่างๆ

แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรค Celiac ซึ่งเป็นอาการแพ้ภูมิต้านทานตัวเอง การรับประทานอาหารที่มีกลูเตนอาจทำให้เกิดอาการภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่ลำไส้เล็ก ส่งผลให้เกิดอาการดูดซึมผิดปกติ ขาดสารอาหาร น้ำหนักลด มีผลถึงชีวิตได้ในระยะยาว ส่วนอีกอาการที่อาจเข้าใจสับสนกันคืออาการแพ้กลูเต็น ซึ่งจะเป็นอาการแบบแพ้อาหารทั่วไป ส่งผลเห็นได้ไวกว่าโดยมีมักมีอาการท้องอืด ท้องเสีย ฯลฯ

อาหารปลอดกลูเตนคืออะไร?

อาหารปลอดกลูเตน คืออาหารที่ปราศจากกลูเตน ซึ่งหมายความว่าอาหารเหล่านี้ไม่ประกอบด้วยธัญพืชที่มีสารกลูเตน เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวไรย์ อาหารปลอดกลูเต็นมักจะใช้ธัญพืชที่ไม่มีกลูเตนเป็นส่วนผสม เช่น ข้าวโพด ข้าวกล้อง หรือบัควีท ซึ่งไม่เพียงแค่ปราศจากกลูเตน แต่ยังมีประโยชน์ทางโภชนาการที่ดีต่อร่างกาย

เหตุของการรับประทานอาหารปลอดกลูเตน

1. เลี่ยงอาการไม่พึงประสงค์

ในผู้ที่เป็นโรค Celiac มีความจำเป็นที่ต้องเลี่ยงกลูเตนจากเหตุผลทางการแพทย์อยู่แล้ว แต่สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้กลูเตน การทานอาหารปลอดกลูเตนจะช่วยลดอาการต่างๆ เช่น ท้องอืด ท้องเสีย ปวดท้อง หรืออาการปวดหัว และลดปัญหาในระบบทางเดินอาหาร

2. ช่วยควบคุมน้ำหนักไปในตัว

อาการที่มีกลูเตนส่วนใหญ่มักจะมีคาร์โบไฮเดรตแปรรูปสูงเพราะมักเป็นอาหารแปรรูป การรับประทานอาหารปลอดกลูเตนจึงถือเป็นการควบคุมน้ำหนักและบำรุงสุขภาพไปในตัว

3. อาจปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร

อาหารปลอดกลูเตน อาจช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้นสำหรับผู้มีประวัติปัญหาในทางเดินอาหาร เพราะตัวกลูเตนอาจถูกย่อยไม่หมดโดยเอนไซม์ในลำไส้ นำไปสู่อาการลำไส้อักเสบ

อาหารที่ไม่มีกลูเตน

1. ธัญพืชที่ไม่มีกลูเตน

  • ข้าวโพด
  • ข้าวกล้อง
  • บัควีท
  • ข้าวฟ่าง
  • คีนัว

2. ผลิตภัณฑ์จากนม

ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นม โยเกิร์ต และชีส ส่วนใหญ่ปลอดกลูเตน แต่ควรตรวจสอบฉลากเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการแต่งเติมสารที่มีกลูเตนเพิ่มไป

3. เนื้อสัตว์และปลา

เนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการแปรรูปและปลาทุกชนิดมักจะปลอดกลูเตน

4. ผักและผลไม้

ผักสดและผลไม้ส่วนใหญ่จะไม่มีกลูเตน แต่อาจต้องระมัดระวังผลิตภัณฑ์ที่มีการปรุงแต่ง เช่น น้ำผลไม้ที่มีสารเติมแต่ง

5. ผลิตภัณฑ์จากธัญพืชที่ไม่มีกลูเตน

ในปัจจุบันมีการผลิตขนมปัง พาสต้า และคุกกี้ที่ทำจากธัญพืชที่ไม่มีกลูเตน เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง หรือแป้งมันสำปะหลัง

คำแนะนำในการเลือกอาหารปลอดกลูเตน

  • ตรวจสอบฉลาก: บางผลิตภัณฑ์ที่ดูเหมือนจะปลอดกลูเตนอาจจะมีการผสมสารที่มีกลูเตนในขั้นตอนการผลิต ดังนั้นควรตรวจสอบฉลากอย่างละเอียด
  • เน้นอาหารสดและธรรมชาติ: เลือกทานผัก ผลไม้ ธัญพืชที่ไม่มีกลูเตน และเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการแปรรูป เพราะอาหารปลอดกลูเตนไม่ได้ดีต่อสุขภาพเสมอไปเนื่องจากยังเป็นอาหารแปรรูปอยู่ ซึ่งอาจมีโซเดียมสูง
  • รับประทานอาหารหลากหลาย: ถ้าเราไม่ได้เป็นผู้มีเหตุจำเป็นที่จะเลี่ยงกลูเตน ก็ควรรับประทานอาหารที่มีกลูเตนผสมไปด้วยเป็นครั้งคราว เพราะอาหารปลอดกลูเตนมักจะมีไฟเบอร์และวิตามินบีน้อย จึงต้องวางแผนให้ดี

สรุป

การรับประทานอาหารปลอดกลูเตนนั้นส่วนใหญ่เป็นทางเลือกที่เป็นของผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เพื่อลดอาการไม่พึงประสงค์จากการทานกลูเตน แต่ยังมีผลช่วยส่งเสริมสุขภาพได้ด้วย เช่นการควบคุมน้ำหนักหรือปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร หากอยากลองทานอาหารปลอดกลูเตน อย่าลืมวางแผนเลือกทานอาหารที่สดใหม่และปราศจากสารเติมแต่งเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย

© 2024 Company, Inc